ชีวประวัติ • การประหัตประหารงานเขียน

นักเขียนผู้โด่งดังจากหนังสือ "สาปแช่ง" "Satanic Verses" จริงๆ แล้ว Salman Rushdie เป็นผู้แต่งนวนิยายจำนวนมาก ซึ่งในบรรดาผลงานชิ้นเอกที่เราได้พบเจอ เช่น ในฐานะ "เด็กเที่ยงคืน"

เกิดที่เมืองบอมเบย์ (อินเดีย) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2490 เขาย้ายไปลอนดอนเมื่ออายุได้ 14 ปี เรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สิ่งพิมพ์ครั้งแรกของเขา ได้แก่ เรื่องสั้น "Grimus" (1974), "Midnight's Children" (1981) และ "Shame" (1983) ด้วย "Midnight's Children" นวนิยายที่ซับซ้อนที่สร้างขึ้นโดยสอดแทรกเรื่องราวของซาลีม ซีนายและตัวละครอื่นๆ อีกนับพันที่เกิดประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2490 (วันที่อินเดียประกาศเอกราช) เขาได้รับรางวัล Booker Prize ในปี 2524 และได้รับความนิยมอย่างคาดไม่ถึงและ ความสำเร็จที่สำคัญ

ตั้งแต่ปี 1989 เขาใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ หลังจากการตัดสินประหารชีวิตโดยโคไมนีและระบอบอยาตอลเลาะห์ (ประโยคถูกระงับในอีกหลายปีต่อมา แต่ไม่ชัดเจน) หลังจากการตีพิมพ์หนังสือ "Satanic Verses" ซึ่งถือว่า "ดูหมิ่นศาสนา" (แม้ว่าเมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว ผู้เขียนไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเปลี่ยนการเปิดเผยคัมภีร์โกหร่านให้เป็นเรื่องราว)

เนื่องจากการคุกคามที่เป็นรูปธรรมเหล่านี้ (เช่น ผู้แปลหนังสือภาษาญี่ปุ่นถูกลอบสังหาร) รัชดีจึงถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในเป็นความลับเป็นเวลาหลายปีด้วยความกลัวว่าประโยคดังกล่าวจะถูกนำไปใช้โดย "ผู้ซื่อสัตย์" ของอิสลามหลายคนที่ปลดปล่อยออกมาเพื่อจุดประสงค์นี้ เขากลายเป็นคดีระหว่างประเทศซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการไม่ยอมรับทางศาสนาในช่วงปลายสหัสวรรษ

"Satanic Verses" ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม นวนิยายระดับสูง นอกเหนือไปจากผลกระทบอันใหญ่หลวงที่เป็นผลมาจากความเชื่อมั่น และแบ่งออกเป็นเก้าบท ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ของกิบรีลและ ศอลาฮุดดีนและการตีความใหม่ของวัฒนธรรมอิสลามในแง่มุมสมมติ ซึ่งเป็นผลมาจากแกนหลักของความเชื่อมโยงและความขัดแย้งระหว่างโลกฆราวาสกับศาสนา

ต่อมาเขาได้ตีพิมพ์รายงานเกี่ยวกับการเดินทางของเขาในนิการากัว "The smile of the jaguar" (1987) และในปี 1990 หนังสือสำหรับเด็ก "Harun and the Sea of ​​Stories" ในปี 1994 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคนแรกของรัฐสภาระหว่างประเทศของนักเขียน; จากนั้นเขาจะเป็นรองประธานาธิบดี

ตามที่นักวิจารณ์เขียนไว้อย่างมีไหวพริบ รัชดีเป็น " นักประดิษฐ์เรื่องราวที่ไม่ธรรมดา ซึ่งเขาได้ผสมผสานคำบรรยายของ "นักเล่าเรื่อง" ชาวอินเดีย ที่สามารถเล่าเรื่องที่กินเวลาทั้งวัน เต็มไปด้วยเรื่องไร้สาระ และกลับมาดำเนินต่อโดยผ่านเส้นเลือดมหัศจรรย์ที่ขยายความเป็นจริงในขณะที่ยังคงยึดอยู่กับมัน และความเชี่ยวชาญทางวรรณกรรมของ Sterneian: สิ่งที่ทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวภายในรูปแบบวรรณกรรมนวนิยายที่เผยให้เห็นถึงกลอุบาย กลอุบาย และกลเม็ดของมันเตือนผู้อ่านถึงลักษณะสมมติของนิทาน สิ่งนี้ทำให้สามารถบ่อนทำลายเกณฑ์ของความเป็นจริง การวางความเป็นจริงและความฝัน การบรรยายที่เหมือนจริง และการประดิษฐ์ที่เป็นตำนานให้อยู่ในระดับเดียวกัน "

เขาเคยเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมมาบ้างแล้ว เวลา

บรรณานุกรมที่สำคัญ:

Harun and the Sea of ​​Stories, 1981

Midnight's Children, 1987

The Smile of the Jaguar, 1989

ความอัปยศ 1991 (1999)

พ่อมดแห่งออซ Shadow Line 1993 (2000)

Satanic Verses 1994

บ้านเกิดในจินตนาการ 2537

การถอนหายใจครั้งสุดท้ายของมัวร์ 2538

ตะวันออก ตะวันตก 2540

โลกใต้เท้าของเขา 2542

พิโรธ 2546

ข้ามเส้นนี้: รวบรวมสารคดีปี 1992-2002 (2002)

Shalimar il clown, 2006

The Enchantress of Florence, 2008

Luka and il fuoco della vita (ลูก้ากับไฟแห่งชีวิต 2010)

Joseph Anton (2012)

สองปี ยี่สิบแปดเดือนกับยี่สิบแปดคืน (2015)